อายุ 6-12 ปี
ภูมิคุ้มกันต่ำ
เจ็บป่วยบ่อย
อายุ 13-22 ปี
ใช้ชีวิตเต็มที่
มีโอกาสเจ็บป่วย
อายุ 23-45 ปี
สร้างความมั่นคง
ร่างกายทรุดโทรม
อายุ 46-65 ปี
สุขภาพถดถอย
เสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
[1] ความคุ้มครองหลักล้าน เงื่อนไขเป็นไปตามแผนคุ้มครอง และข้อกำหนดของกรมธรรม์ที่สมัคร และการพิจารณาของบริษัท
[2] เงื่อนไขเป็นไปตามข้อกำหนดของธนาคารผู้ออกบัตร
[3] สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ สำหรับค่าเบี้ยประกันภัยสุขภาพตามจำนวนที่จ่ายจริง (เฉพาะในส่วนความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอันเนื่องจากการเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บ) สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันภัยคุ้มครองชีวิต ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี โดยเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของกรมสรรพากร
[4] เงื่อนไขที่กำหนดเกี่ยวกับการบริการพิเศษสำรองจ่ายเป็นเพียงบริการเสริมของบริษัทที่ทำไว้กับโรงพยาบาลในเครือข่ายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ท่านไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล ยกเว้นบางกรณี เช่น อาการเจ็บป่วยเข้าข้อยกเว้นของกรมธรรม์ หรือโรคที่เป็นมาก่อนสมัครทำประกันภัย หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยซึ่งเป็นไปตามการพิจารณาของบริษัท โดยขอสงวนสิทธิ์ให้ผู้เอาประกันภัยทำการสำรองจ่าย เช่น กรณีรักษาในโรงพยาบาลนอกเครือข่าย หรือ มีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วย หรือข้อมูลการเจ็บป่วยไม่ชัดเจน หรือเข้าข้อยกเว้นของกรมธรรม์
[5] ระยะเวลาดำเนินการเคลม ขึ้นอยู่กับขั้นตอนของแต่ละโรงพยาบาล
• อายุรับประกันภัย ได้แก่ 6 - 65 ปี และอายุ 66 - 70 ปี กรณีต่ออายุเท่านั้น
• รับความคุ้มครองทันตกรรมและค่าพยาบาลพิเศษเพิ่มเติม เฉพาะแผน All In One (IPD+OPD) ที่ชำระค่าเบี้ยแบบรายปีหรือผ่านบัตรเครดิต
• ค่าเบี้ยเริ่มต้น 22 บาท คำนวณจากลูกค้าอายุ 31-35 ปี แผน IPD 300,000 บาท
• ค่าเบี้ยเริ่มต้น 26 บาท คำนวณจากลูกค้าอายุ 31-35 ปี แผน All In One (IPD+OPD) 100,000 บาท
• ทั้งนี้ผู้ทำประกันจะต้องไม่เป็นโรคประจำตัว เรื้อรัง ร้ายแรงมาก่อนสมัครทำประกันภัย
• รายละเอียดความคุ้มครอง ข้อยกเว้น / ผลประโยชน์การรักษาและการจ่ายผลประโยชน์ เป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์
• การพิจารณารับประกันภัย ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของ บมจ. เจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์)
• ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการนำเสนอเท่านั้น ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคุ้มครอง ข้อกำหนดเงื่อนไข ข้อยกเว้น และผลประโยชน์ จากกรมธรรม์ และผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
เงื่อนไขที่กำหนดเกี่ยวกับการชำระเบี้ยประกัน
1. กรมธรรม์นี้เป็นกรมธรรม์ประกันภัยแบบรายปี โดยการชำระเบี้ยประกันภัยจะเป็นแบบแบ่งจ่ายรายงวด โดยผู้เอาประกันภัยสามารถเลือก การแบ่งชำระเบี้ยประกันภัยเป็นแบบราย 3 งวด 4 งวด 6 งวด หรือ 12 งวด เท่า ๆ กัน กรณีลูกค้าชำระเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ความคุ้มครองจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง กรณีลูกค้าขาดการชำระเบี้ยประกันภัยตามงวดที่เลือก เงื่อนไขให้เป็นไปตามข้อ 2 การชำระเบี้ยประกันภัย และการให้ความคุ้มครอง
2. การชำระเบี้ยประกันภัย และการให้ความคุ้มครอง
2.1 เบี้ยประกันภัยของงวดแรกต้องชำระทันที และชำระต่อเนื่องกันไปทุกงวดภายในระยะเวลาตามรายงวดที่เลือก
2.2 ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยไม่ได้ชำระเบี้ยประกันภัยงวดแรกตามข้อ 2.1 ให้ถือว่ากรมธรรม์ประกันภัยนี้ไม่มีผลบังคับ
2.3 กรมธรรม์นี้มีระยะเวลาการผ่อนผันการชำระเบี้ย 30 วัน นับจากงวดล่าสุดที่ถึงรอบการชำระเบี้ย โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับสิทธิ์การผ่อนผันการชำระเบี้ยเพียง 1 ครั้งเท่านั้น
2.4 หากผู้เอาประกันภัยไม่ชำระเบี้ยประกันภัยหรือชำระไม่ครบถ้วนตามงวดการชำระ ภายในระยะเวลารายงวดที่เลือก รวมระยะเวลาผ่อนผันตามข้อ 2.3 ให้ถือว่ากรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวจะสิ้นสุดโดยอัตโนมัติ ณ วันสุดท้ายที่กรมธรรม์มีผลคุ้มครองตามค่าเบี้ยประกันภัยที่ได้ชำระแล้ว
3. กรณีที่ผู้เอาประกันภัยมีการเรียกร้องผลประโยชน์ (เฉพาะการสูญเสียชีวิต, ทุพพลภาพถาวร) ก่อนที่จะชำระเบี้ยประกันภัยครบทุกงวด บริษัทจะหักเบี้ยประกันภัยของเดือนที่ค้างชำระอยู่ออกจากผลประโยชน์ดังกล่าวข้างต้นที่ผู้ได้รับความคุ้มครองจะได้รับ จากนั้นกรมธรรม์ประกันภัยเป็นอันสิ้นสุดความคุ้มครอง
4. การสิ้นผลบังคับตามกรมธรรม์
4.1 กรณีผู้เอาประกันภัยไม่ชำระค่าเบี้ยประกันภัยตามข้อ 2 กรมธรรม์ประกันภัยจะสิ้นสุดโดยอัตโนมัติ โดยจะมีผลบังคับจนถึงวันสุดท้ายที่กรมธรรม์มีผลคุ้มครองตามค่าเบี้ยประกันภัยที่ได้ชำระแล้ว ทั้งนี้บริษัทฯ จะบอกกล่าวล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วันเป็นหนังสือให้ผู้เอาประกันภัยทราบถึงวันสุดท้ายที่กรมธรรม์มีผลบังคับ โดยความคุ้มครองได้เกิดขึ้นแล้วนับแต่วันที่กรมธรรม์มีผลคุ้มครอง และต่อเนื่องจนถึงเวลาที่ผู้เอาประกันภัยไม่ได้ชำระค่าเบี้ยประกันภัย ดังนั้นบริษัทจะไม่คืนเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย
4.2 การสิ้นผลบังคับตามกรมธรรม์ประกันภัย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยฝ่ายใดก็ตาม ต้องเป็นการสิ้นสุดความคุ้มครองทั้งฉบับเท่านั้น ไม่สามารถเลือกการสิ้นผลบังคับข้อตกลงคุ้มครองเพียงหมวดใดหมวดหนึ่งได้ส่วนเงื่อนไขสัญญาประกันภัยและข้อยกเว้นอื่นๆ ในกรมธรรม์ประกันภัย คงใช้บังคับตามเดิม